อาวุธนิวเคลียร์ เป็นวัตถุระเบิดซึ่งมีอำนาจทำลายล้างมาจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ ไม่ว่าจะเป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชันอย่างเดียว หรือ นิวเคลียร์ฟิชชันและนิวเคลียร์ฟิวชันรวมกัน ปฏิกิริยาทั้งสองปลดปล่อยพลังงานปริมาณมหาศาลจากสสารปริมาณค่อนข้างน้อย การทดสอบระเบิดฟิชชัน (อะตอม) ลูกแรกปลดปล่อยพลังงานออกมาเทียบเท่ากับทีเอ็นทีประมาณ 20,000 ตัน การทดสอบระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์ (ระเบิดไฮโดรเจน) ลูกแรก ปลดปล่อยพลังงานออกมาเท่ากับทีเอ็นทีประมาณ 10,000,000 ตัน[1]...
อาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์สมัยใหม่ที่หนักกว่า 1,100 กิโลกรัมเล็กน้อย สามารถก่อให้เกิดแรงระเบิดเทียบเท่ากับการจุดระเบิดทีเอ็นทีมากกว่า 1.2 ล้านตัน ดังนั้น กระทั่งวัตถุนิวเคลียร์ลูกเล็ก ๆ ที่ขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าระเบิดธรรมดา สามารถทำลายล้างนครทั้งนครได้ ด้วยแรงระเบิดไฟและกัมมันตรังสี อาวุธนิวเคลียร์ถูกพิจารณาว่าเป็นอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง และการใช้และควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ได้กลายเป็นจุดสนใจสำคัญของนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนับแต่ถือกำเนิดขึ้น
มีอาวุธนิวเคลียร์เพียงสองชิ้นเท่านั้นที่เคยใช้ตลอดห้วงการสงคราม ทั้งสองครั้งโดยสหรัฐอเมริกายามสงครามโลกครั้งที่สองใกล้ยุติ วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 วัตถุประเภทจุดระเบิดยูเรเนียม (uranium gun-type) ชื่อรหัสว่า "ลิตเติลบอย" ถูกจุดระเบิดเหนือนครฮิโรชิมะของญี่ปุ่น อีกสามวันให้หลัง วันที่ 9 สิงหาคม วัตถุประเภทจุดระเบิดภายในพลูโตเนียม (plutonium implosion-type) ชื่อรหัสว่า "แฟตแมน" ระเบิดเหนือนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น การทิ้งระเบิดทั้งสองลูกส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตไปประมาณ 200,000 ศพ ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน จากการบาดเจ็บฉับพลันที่ได้รับจากการระเบิด[2]
นับแต่การทิ้งระเบิดฮิโรชิมะและนางาซากิ อาวุธนิวเคลียร์ถูกจุดระเบิดกว่าสองพันโอกาสเพื่อจุดประสงค์ด้านการทดสอบและสาธิต มีเพียงไม่กี่ชาติที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์หรือถูกสงสัยว่ากำลังแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ ประเทศที่ทราบว่าเคยจุดระเบิดอาวุธนิวเคลียร์ และได้รับการรับรองว่าครอบครองอาวุธนิวเคีลยร์ คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต (รัสเซียเป็นผู้สืบทอดอำนาจนิวเคลียร์) สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย ปากีสถาน และเกาหลีเหนือ นอกเหนือจากนี้ อิสราเอลยังถูกเชื่ออย่างกว้างขวางว่าครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่ได้รับการรับรองว่ามี[3][4] รัฐหนึ่ง แอฟริกาใต้ เคยยอมรับว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ที่ทำขึ้นก่อนหน้านี้ในอดีต แต่นับแต่นั้นได้แยกประกอบคลังแสงของตนและส่งให้กับผู้คุ้มครองนานาชาติ[5]
สหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกาประเมินว่ามีหัวรบนิวเคลียร์กว่า 15,700 หัวทั่วโลกใน พ.ศ. 2558 โดยมีราว 4,120 หัวถูกเก็บไว้ในสถานะ "ปฏิบัติการ" คือ พร้อมใช้งานได้ทันที[3]
อาวุธนิวเคลียร์เพียงสองชิ้นเท่านั้นที่เคยใช้ตลอดห้วงการสงคราม ทั้งสองครั้งโดยสหรัฐอเมริกายามสงครามโลกครั้งที่สองใกล้ยุติ วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 วัตถุประเภทจุดระเบิดยูเรเนียม (uranium gun-type) ชื่อรหัสว่า "ลิตเติลบอย" ถูกจุดระเบิดเหนือนครฮิโรชิมะของญี่ปุ่น อีกสามวันให้หลัง วันที่ 9 สิงหาคม วัตถุประเภทจุดระเบิดภายในพลูโตเนียม (plutonium implosion-type) ชื่อรหัสว่า "แฟตแมน" ระเบิดเหนือนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น การทิ้งระเบิดทั้งสองลูกส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตไปประมาณ 200,000 ศพ ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน จากการบาดเจ็บฉับพลันที่ได้รับจากการระเบิด[2]
นับแต่การทิ้งระเบิดฮิโรชิมะและนางาซากิ อาวุธนิวเคลียร์ถูกจุดระเบิดกว่าสองพันโอกาสเพื่อจุดประสงค์ด้านการทดสอบและสาธิต มีเพียงไม่กี่ชาติที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์หรือถูกสงสัยว่ากำลังแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ ประเทศที่ทราบว่าเคยจุดระเบิดอาวุธนิวเคลียร์ และได้รับการรับรองว่าครอบครองอาวุธนิวเคีลยร์ คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต (รัสเซียเป็นผู้สืบทอดอำนาจนิวเคลียร์) สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย ปากีสถาน และเกาหลีเหนือ นอกเหนือจากนี้ อิสราเอลยังถูกเชื่ออย่างกว้างขวางว่าครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่ได้รับการรับรองว่ามี[3][4] รัฐหนึ่ง แอฟริกาใต้ เคยยอมรับว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ที่ทำขึ้นก่อนหน้านี้ในอดีต แต่นับแต่นั้นได้แยกประกอบคลังแสงของตนและส่งให้กับผู้คุ้มครองนานาชาติ[5]
สหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกาประเมินว่ามีหัวรบนิวเคลียร์กว่า 15,700 หัวทั่วโลกใน พ.ศ. 2558 โดยมีราว 4,120 หัวถูกเก็บไว้ในสถานะ "ปฏิบัติการ" คือ พร้อมใช้งานได้ทันที
ถึงแม้ว่าโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากมีมาตรการและกระบวนการตรวจสอบต่าง ๆ ที่เข้มงวดและรัดกุมหลายขั้นตอน แต่ก็อาจเกิดเหตุขัดข้องหรืออุบัติเหตุได้เช่นเดียวกับโรงไฟฟ้าทั่วไป ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดได้ง่ายขึ้น ป้องกันการสับสน และไม่ก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกินกว่าสถานการณ์ที่แท้จริง ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA : International Atomic Energy Agency) ร่วมกับองค์กร Nuclear Energy Agency Organization for Economic Cooperation and Development (NEA/OECD) ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับใช้รายงานอุบัติเหตุโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขึ้นในปี พ.ศ.2533 โดยเรียกว่า มาตราระหว่างประเทศว่าด้วยเหตุการณ์ทางนิวเคลียร์ (INES: International Nuclear Event Scale) โดยกำหนดเป็นมาตราสากล ตั้งแต่ระดับ 0 ถึง 7 เป็น 3 ระดับ ได้แก่
ระดับที่ 0 ระดับเหตุการณ์ปกติ (Deviation) หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัย
ระดับที่ 1-3 ระดับแจ้งเหตุขัดข้องหรืออุบัติการณ์นิวเคลียร์ (Nuclear incident) หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขัดข้องในโรงงานนิวเคลียร์ ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ไม่รุนแรงเท่าอุบัติเหตุนิวเคลียร์
ระดับที่ 4-7 ระดับอุบัติเหตุนิวเคลียร์ (Nuclear accident) หมายถึง เหตุการณ์ใด ๆ ที่เกิด ขึ้นในโรงงานนิวเคลียร์โดยไม่เจตนา รวมถึงความผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมทางนิวเคลียร์ หรือของอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับระบบความปลอดภัย ทำให้มีการปลดปล่อย หรือเกือบมีการปลดปล่อยสารกัมมันตรังสีออกสู่สิ่งแวดล้อม
ผลกระทบของนิวเคลียร์ต่อชีวิต และการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม
เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษแล้ว ที่เกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุนิวเคลียร์กลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้เกิดการปนเปื้อนกัมมันตรังสีพื้นที่ขนาดใหญ่ในทวีปยุโรป คนรุ่นปัจจุบันอาจจำไม่ได้ว่า หลายประเทศต้องทำลายผักโขมและผักสีเขียวอื่นๆ เช่น เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี มีการยกเลิกการบริโภคนม และวัวทั่วยุโรปต้องถูกกักไว้ในคอกเท่านั้น
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้กวางขนาดใหญ่จำนวนมากในแลปแลนด์ แกะในเลคดิสทริคของประเทศอังกฤษ และหมูป่าในแทบชวาร์ซวาลด์ของประเทศเยอรมนี ต้องถูกฆ่าทิ้งเนื่องจากพวกมันปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่สูงเกินไป
โรงเรียนอนุบาลที่ถูกทิ้งร้างในพริเพียต เมืองที่มีประชากรกว่า 50,000 คนถูกทิ้งร้างหลังจาก เหตุการณ์เชอร์โนบิลผ่านไป 3 วัน เมืองนี้ถูกปนเปื้อนด้วยกัมมันตรังสี ปัจจุบันพริเพียตยังคงเป็นเขตที่มีการปนเปื้อนสูงและไม่อนุญาตให้ผู้คนกลับเข้าไปอยู่อาศัย
ในหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบสูงสุดคือ ประเทศเบลารุส ยูเครน และรัสเซีย พื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตรยังคงเป็นพื้นที่ปนเปื้อนเกินที่จะมีผู้คนกลับเข้ามาอยู่อาศัยได้ และผู้คนอีกหลายล้านคนในบริเวณห่างออกไปยังคงต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่เพราะอาจเสี่ยงกับสารปนเปื้อน ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2529 เด็กๆที่อยู่ในรัศมีที่กัมมันตรังสีสามารถแผ่ไปถึงต่างป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ว่าอาจมีผู้เสียชีวิตกว่า 4,000 คนจากสารกัมมันตรังสีจากเหตุการณ์นี้
เหตุการณ์ที่ว่านั่นคือ หายนะภัยนิวเคลียร์เชอร์โนบิล
ต่อมาในปี พ.ศ.2554 เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นซ้ำในญี่ปุ่น ปรากฎการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงและทำให้เตาปฏิกรณ์ในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิได้รับความเสียหาย จนเกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีปริมาณมหาศาล
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผู้คนเกือบแสนคนที่อาศัยอยู่ใกล้กับบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่สามารถกลับบ้านเดิมของเขาได้ วิถีชีวิตรอบๆโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เสียหายนั้นหยุดชะงักจนกระทั่งปัจจุบัน นี่เป็นสิ่งที่เราทราบจากประสบการณ์ตรงว่าพลังงานนิวเคลียร์นั้น มาพร้อมกับความเสี่ยงขั้นรุนแรง
หลังการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี ผู้คนต่างหวาดกลัวการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีสู่สิ่งแวดล้อม หลายประเทศยุติการนำเข้าอาหารทะเลจากฟุกุชิมะ เกิดความหวาดกลัวว่าเด็กๆในรัศมีใกล้เคียงอาจได้รับการแผ่รังสีและมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งดังเช่นเหตุการณ์ในเชอร์โนบิล
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีในฟุกุชิมะ
ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นถึงความเสียหายของเตาปฏิกรณ์ที่ 1 ของโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะ เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2554
จากรายงาน Radiation Reloaded กล่าวว่า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของหายนะภัยนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิจะยังคงอยู่ไปอีกหลายสิบปีหรืออาจนับร้อยปี เนื่องจากสารประกอบของกัมมันตภาพรังสีนั้นซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของพืชและสัตว์ และเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร และมีการแพร่กระจายปนเปื้อนลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกโดยพายุไต้ฝุ่น การละลายของน้ำแข็ง และการเกิดน้ำท่วม
จากรายงานดังกล่าว กรีนพีซได้สำรวจระดับการปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ฟุกุชิมะ 25 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.2554 โดยในปี พ.ศ.2558 เน้นการสำรวจไปที่พื้นที่ป่าไม้บนภูเขา ในเขตอิตาเตะ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ โดยทั้งกรีนพีซและทีมวิจัยอิสระได้ตรวจพบการเคลื่อนย้ายแพร่กระจายของกัมมันตรังสีที่สันปันน้ำของภูเขา ซึ่งหลังจากนั้นอาจเข้าสู่ระบบนิเวศชายฝั่งทะเล
แม่น้ำอาบุกุมะ ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำสายใหญ่ของญี่ปุ่นที่ไหลผ่านพื้นที่ฟุกุชิมะ มีระดับการปนเปื้อนซีเซียม 137 ที่ 111 เทราเบคเคอเรล (terabecquerel, TBq) และที่ 44 เทราเบคเคอเรล (terabecquerel, TBq) ภายใน 100 ปี หลังจากหายนะภัย
เป็นที่ชัดเจนว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงแรกกำลังปรากฎ อาทิ การปนเปื้อนกัมมันตรังสีในเนื้อเยื่อของพืชป่าและต้นไม้ ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายของธาตุซีเซียมในเปลือกไม้ เนื้อไม้และแก่นไม้ โดยมีความเข้มข้นสูงในใบไม้ใหม่ สำหรับกรณีของต้นซีดาร์จะพบมากที่เกสร ปริมาณระดับรังสีจะมีมากขึ้นในต้นสน
นอกจากนี้ยังพบในประชากรผีเสื้อพันธุ์ Pale Grass Blue หนอนที่ดีเอ็นเอได้รับความเสียหายพบในบริเวณที่มีการปนเปื้อนกัมมันตรังสีสูง พบธาตุซีเซียมปนเปื้อนในปลาน้ำจืดเศรษฐกิจ นกนางแอ่นบ้านมีความแข็งแรงน้อยลง รวมถึงพบการปนเปื้อนกัมมันตรังสีในระบบนิเวศที่สำคัญอย่างยิ่งของพื้นที่ชายฝั่งปากแม่น้ำ
เราจำเป็นต้องมีระบบพลังงานที่สามารถต่อกรกับวิกฤตสภาพอากาศ ที่มีพื้นฐานอยู่บนระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานนิวเคลียร์มีน้อยกว่าไฟฟ้าจากระบบพลังงานหมุนเวียน และจะยังคงลดลงต่อไปในอีกหลายปีที่กำลังจะมาถึง
การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะมีค่าใช้จ่ายหลายสิบล้านล้านบาท อาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเหมือนกับเหตุการณ์เชอร์โนบิลหรือเหตุการณ์ในฟุกุชิมะและจะก่อให้เกิดกากกัมมันตภาพรังสีในระดับสูงที่ทำให้เสียชีวิตได้ รวมทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้ส่วนประกอบของอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มอย่างรวดเร็ว
เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษแล้ว ที่เกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุนิวเคลียร์กลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้เกิดการปนเปื้อนกัมมันตรังสีพื้นที่ขนาดใหญ่ในทวีปยุโรป คนรุ่นปัจจุบันอาจจำไม่ได้ว่า หลายประเทศต้องทำลายผักโขมและผักสีเขียวอื่นๆ เช่น เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี มีการยกเลิกการบริโภคนม และวัวทั่วยุโรปต้องถูกกักไว้ในคอกเท่านั้น
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้กวางขนาดใหญ่จำนวนมากในแลปแลนด์ แกะในเลคดิสทริคของประเทศอังกฤษ และหมูป่าในแทบชวาร์ซวาลด์ของประเทศเยอรมนี ต้องถูกฆ่าทิ้งเนื่องจากพวกมันปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่สูงเกินไป
โรงเรียนอนุบาลที่ถูกทิ้งร้างในพริเพียต เมืองที่มีประชากรกว่า 50,000 คนถูกทิ้งร้างหลังจาก เหตุการณ์เชอร์โนบิลผ่านไป 3 วัน เมืองนี้ถูกปนเปื้อนด้วยกัมมันตรังสี ปัจจุบันพริเพียตยังคงเป็นเขตที่มีการปนเปื้อนสูงและไม่อนุญาตให้ผู้คนกลับเข้าไปอยู่อาศัย
ในหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบสูงสุดคือ ประเทศเบลารุส ยูเครน และรัสเซีย พื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตรยังคงเป็นพื้นที่ปนเปื้อนเกินที่จะมีผู้คนกลับเข้ามาอยู่อาศัยได้ และผู้คนอีกหลายล้านคนในบริเวณห่างออกไปยังคงต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่เพราะอาจเสี่ยงกับสารปนเปื้อน ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2529 เด็กๆที่อยู่ในรัศมีที่กัมมันตรังสีสามารถแผ่ไปถึงต่างป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ว่าอาจมีผู้เสียชีวิตกว่า 4,000 คนจากสารกัมมันตรังสีจากเหตุการณ์นี้
เหตุการณ์ที่ว่านั่นคือ หายนะภัยนิวเคลียร์เชอร์โนบิล
ต่อมาในปี พ.ศ.2554 เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นซ้ำในญี่ปุ่น ปรากฎการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงและทำให้เตาปฏิกรณ์ในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิได้รับความเสียหาย จนเกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีปริมาณมหาศาล
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผู้คนเกือบแสนคนที่อาศัยอยู่ใกล้กับบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่สามารถกลับบ้านเดิมของเขาได้ วิถีชีวิตรอบๆโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เสียหายนั้นหยุดชะงักจนกระทั่งปัจจุบัน นี่เป็นสิ่งที่เราทราบจากประสบการณ์ตรงว่าพลังงานนิวเคลียร์นั้น มาพร้อมกับความเสี่ยงขั้นรุนแรง
หลังการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี ผู้คนต่างหวาดกลัวการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีสู่สิ่งแวดล้อม หลายประเทศยุติการนำเข้าอาหารทะเลจากฟุกุชิมะ เกิดความหวาดกลัวว่าเด็กๆในรัศมีใกล้เคียงอาจได้รับการแผ่รังสีและมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งดังเช่นเหตุการณ์ในเชอร์โนบิล
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีในฟุกุชิมะ
ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นถึงความเสียหายของเตาปฏิกรณ์ที่ 1 ของโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะ เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2554
จากรายงาน Radiation Reloaded กล่าวว่า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของหายนะภัยนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิจะยังคงอยู่ไปอีกหลายสิบปีหรืออาจนับร้อยปี เนื่องจากสารประกอบของกัมมันตภาพรังสีนั้นซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของพืชและสัตว์ และเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร และมีการแพร่กระจายปนเปื้อนลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกโดยพายุไต้ฝุ่น การละลายของน้ำแข็ง และการเกิดน้ำท่วม
จากรายงานดังกล่าว กรีนพีซได้สำรวจระดับการปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ฟุกุชิมะ 25 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.2554 โดยในปี พ.ศ.2558 เน้นการสำรวจไปที่พื้นที่ป่าไม้บนภูเขา ในเขตอิตาเตะ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ โดยทั้งกรีนพีซและทีมวิจัยอิสระได้ตรวจพบการเคลื่อนย้ายแพร่กระจายของกัมมันตรังสีที่สันปันน้ำของภูเขา ซึ่งหลังจากนั้นอาจเข้าสู่ระบบนิเวศชายฝั่งทะเล
แม่น้ำอาบุกุมะ ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำสายใหญ่ของญี่ปุ่นที่ไหลผ่านพื้นที่ฟุกุชิมะ มีระดับการปนเปื้อนซีเซียม 137 ที่ 111 เทราเบคเคอเรล (terabecquerel, TBq) และที่ 44 เทราเบคเคอเรล (terabecquerel, TBq) ภายใน 100 ปี หลังจากหายนะภัย
เป็นที่ชัดเจนว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงแรกกำลังปรากฎ อาทิ การปนเปื้อนกัมมันตรังสีในเนื้อเยื่อของพืชป่าและต้นไม้ ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายของธาตุซีเซียมในเปลือกไม้ เนื้อไม้และแก่นไม้ โดยมีความเข้มข้นสูงในใบไม้ใหม่ สำหรับกรณีของต้นซีดาร์จะพบมากที่เกสร ปริมาณระดับรังสีจะมีมากขึ้นในต้นสน
นอกจากนี้ยังพบในประชากรผีเสื้อพันธุ์ Pale Grass Blue หนอนที่ดีเอ็นเอได้รับความเสียหายพบในบริเวณที่มีการปนเปื้อนกัมมันตรังสีสูง พบธาตุซีเซียมปนเปื้อนในปลาน้ำจืดเศรษฐกิจ นกนางแอ่นบ้านมีความแข็งแรงน้อยลง รวมถึงพบการปนเปื้อนกัมมันตรังสีในระบบนิเวศที่สำคัญอย่างยิ่งของพื้นที่ชายฝั่งปากแม่น้ำ
เราจำเป็นต้องมีระบบพลังงานที่สามารถต่อกรกับวิกฤตสภาพอากาศ ที่มีพื้นฐานอยู่บนระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานนิวเคลียร์มีน้อยกว่าไฟฟ้าจากระบบพลังงานหมุนเวียน และจะยังคงลดลงต่อไปในอีกหลายปีที่กำลังจะมาถึง
การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะมีค่าใช้จ่ายหลายสิบล้านล้านบาท อาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเหมือนกับเหตุการณ์เชอร์โนบิลหรือเหตุการณ์ในฟุกุชิมะและจะก่อให้เกิดกากกัมมันตภาพรังสีในระดับสูงที่ทำให้เสียชีวิตได้ รวมทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้ส่วนประกอบของอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มอย่างรวดเร็ว
26 เม.ย.ครบรอบ 33 ปี เหตุโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลระเบิด
--26 เม.ย.2529 โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิล (Chernobyl Nuclear Power Plant) ที่เมืองเชอร์โนบิล ประเทศยูเครน (สมัยนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต) เกิดระเบิด หลังจากที่ทีมวิศวกรตรวจสอบการทำงานของระบบทำความเย็น โดยปิดระบบรักษาความปลอดภัย เมื่อแรงดันไอน้ำภายในสูงขึ้นอย่างฉับพลันแต่ระบบตัดการทำงานอัตโนมัติกลับไม่ทำงาน ส่งผลให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 4 ระเบิด สารกัมมันตรังสีเกือบทั้งหมดแพร่กระจายสู่บรรยากาศในรัศมี 30 กิโลเมตรมีการเปรอะเปื้อนรังสีสูง ถูกประกาศเป็นเขตอันตราย (Zone of alienation) สารกัมมันตภาพรังสีลอยปนเปื้อนทั้งในอากาศ แม่น้ำ ผืนดิน ทั่วทวีปยุโรปกว่า 3.9 ล้านตารางกิโลเมตร ต้องอพยพประชาชนประมาณ 336,000 คน หลังอุบัติเหตุ รัฐบาลยูเครนพยายามปิดข่าว แจ้งเพียงแค่ว่ามีเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่ดับเพลงเสียชีวิตจำนวน 31 คน มีผู้บาดเจ็บจากกัมมันตรังสี 203 คน แต่ด้วยความต้องการไฟฟ้าจำนวนมาก รัฐบาลยูเครนก็สั่งเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เหลือในปี 2534 ก่อนโรงงานจะปิดตัวเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2543
--ในปี 2545 องค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้สรุปผลความเสียหาย มีผู้เสียชีวิตจากแรงระเบิดโดยตรง 47 ราย และคาด ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีก 9,000 คน จากจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดประมาณ 6.6 ล้านคน นับว่าเป็นหายนะภัยจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่รุนแรงที่สุดในโลก
มันก็ยังไม่เลิกไอ้พวกส้นตีนคนรัสเซีย
กองทัพรัสเซียยึดอดีตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองเชอร์โนบิลทางตอนเหนือของยูเครนแห่งนี้ ไปได้ในวันแรกที่บุกยูเครน แต่ตอนนี้ยูเครนกลับมาควบคุมโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้อีกครั้ง โยกิตา ลิเมอเย ผู้สื่อข่าวบีบีซี เป็นหนึ่งในนักข่าวกลุ่มแรก ๆ ที่ได้เข้าไปดูภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ หลังจากรัสเซียถอนกำลังออกไป
ในช่วงบ่ายวันที่ 24 ก.พ. กองกำลังของรัสเซีย ได้ล้อมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลด้วยรถถังและยานหุ้มเกราะ ขณะบุกเข้ายูเครนจากพรมแดนเบลารุส ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 16 กม. เท่านั้น
กองกำลังรักษาดินแดน 170 นาย ของยูเครน ที่ดูแลความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ถูกนำตัวไปขังไว้ที่ชั้นใต้ดิน จากนั้นทหารรัสเซียก็ค้นหาอาวุธและวัตถุระเบิดในบริเวณพื้นที่ของโรงไฟฟ้า
บรรดาวิศวกร ผู้ควบคุมตรวจสอบ และเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิค ได้รับอนุญาตให้ทำงานต่อไปได้ ในอีก 2 วันต่อมา รัสเซียได้ส่งคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพลังงานปรมาณูของรัสเซีย หรือ Rosatom มาที่นี่
เจ้าหน้าที่ของโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ต้องการที่จะควบคุมดูแลโรงไฟฟ้านี้ต่อไป แม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกใช้งานแล้ว แต่ว่ามีการเก็บกากกัมมันตรังสีไว้ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้ ซึ่งเคยเกิดเหตุภัยพิบัติทางนิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดในโลก มีการใช้เงินไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่เกิดเหตุนี้ขึ้นในปี 1986 เพื่อทำความสะอาดและควบคุมการปนเปื้อนต่อไป ถ้าไม่มีการควบคุมดูแลสถานที่นี้อย่างเหมาะสม ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้วัตถุนิวเคลียร์รั่วไหลออกมาได้
"พวกเขาต้องการรู้ว่า มีการจัดการดูแลโรงไฟฟ้านี้อย่างไร พวกเขาอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการทุกอย่าง เอกสาร และปฏิบัติการต่าง ๆ ผมกลัวเพราะมีการซักถามไม่หยุดเลย และบางครั้งก็มีการใช้กำลัง" โอเลกซานเดอร์ โลบาดา เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยด้านกัมมันตรังสีที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้กล่าว
ทุกคนตายฟรีทั้งหมดและเมืองนีร้างทั้งเมือง
หน่วย SBU ควบคุมตัวสายลับชาวรัสเซียที่กำลังโจมตีคาร์คิฟอย่างเป็นศัตรู และกำลังรอให้เมืองนี้ถูกยึดครองหน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซียอีกนายหนึ่ง (รู้จักกันดีในชื่อเกม) อยู่ในเมืองคาร์คิฟ ผู้ก่อเหตุกำลังแก้ไขการโจมตีด้วยขีปนาวุธและระเบิดของผู้รุกราน และกำลังรอการยึดครองพื้นที่
หน่วย SBU ควบคุมตัวสายลับชาวรัสเซียที่กำลังโจมตีคาร์คิฟอย่างเป็นศัตรู และกำลังรอให้เมืองนี้ถูกยึดครอง หน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซียอีกนายหนึ่ง (รู้จักกันดีในชื่อเกม) อยู่ในเมืองคาร์คิฟ ผู้ก่อเหตุกำลังแก้ไขการโจมตีด้วยขีปนาวุธและระเบิดของผู้รุกราน และกำลังรอการยึดครองพื้นที่ จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงท้องถิ่นวัย 46 ปี ที่ไม่มีงานทำ หญิงคนดังกล่าวได้รับความสนใจจากหน่วยข่าวกรองรัสเซียเมื่อเธอโทรแจ้งช่อง Telegram ให้บุกยึดเมืองคาร์คิฟ หลังจากการรับสมัคร ผู้ดูแลจะส่งรายชื่อสถานที่ให้กับหน่วยงานที่ควรจะ "ตรวจสอบ" เพื่อหาฐานทัพที่เป็นไปได้ของกองกำลังป้องกันประเทศ เพื่อทำเช่นนี้ ผู้ต้องสงสัยได้เดินไปใกล้ ๆ วัตถุที่กำหนดและสังเกตขอบเขตภายนอกของพวกมัน หากตรวจพบกองกำลังป้องกันยูเครนในพื้นที่นั้น เจ้าหน้าที่จะถ่ายรูป "เป้าหมาย" ที่อาจเป็นไปได้โดยอ้างอิงถึงตำแหน่งนั้น และทำเครื่องหมายพิกัดไว้บน Google Maps เจ้าหน้าที่ SBU บันทึกกิจกรรมก่อการร้ายของผู้ก่อเหตุและควบคุมตัวเธอไว้ กองกำลังรักษาความปลอดภัยยังได้ใช้มาตรการที่ครอบคลุมเพื่อรักษาความปลอดภัยสถานที่ต...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น