ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อาวุธนิวเคลียร์ เป็นวัตถุระเบิดซึ่งมีอำนาจทำลายล้างมาจากปฏิกิริยานิวเคลียร์

อาวุธนิวเคลียร์ เป็นวัตถุระเบิดซึ่งมีอำนาจทำลายล้างมาจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ ไม่ว่าจะเป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชันอย่างเดียว หรือ นิวเคลียร์ฟิชชันและนิวเคลียร์ฟิวชันรวมกัน ปฏิกิริยาทั้งสองปลดปล่อยพลังงานปริมาณมหาศาลจากสสารปริมาณค่อนข้างน้อย การทดสอบระเบิดฟิชชัน (อะตอม) ลูกแรกปลดปล่อยพลังงานออกมาเทียบเท่ากับทีเอ็นทีประมาณ 20,000 ตัน การทดสอบระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์ (ระเบิดไฮโดรเจน) ลูกแรก ปลดปล่อยพลังงานออกมาเท่ากับทีเอ็นทีประมาณ 10,000,000 ตัน[1]...
อาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์สมัยใหม่ที่หนักกว่า 1,100 กิโลกรัมเล็กน้อย สามารถก่อให้เกิดแรงระเบิดเทียบเท่ากับการจุดระเบิดทีเอ็นทีมากกว่า 1.2 ล้านตัน ดังนั้น กระทั่งวัตถุนิวเคลียร์ลูกเล็ก ๆ ที่ขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าระเบิดธรรมดา สามารถทำลายล้างนครทั้งนครได้ ด้วยแรงระเบิดไฟและกัมมันตรังสี อาวุธนิวเคลียร์ถูกพิจารณาว่าเป็นอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง และการใช้และควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ได้กลายเป็นจุดสนใจสำคัญของนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนับแต่ถือกำเนิดขึ้น มีอาวุธนิวเคลียร์เพียงสองชิ้นเท่านั้นที่เคยใช้ตลอดห้วงการสงคราม ทั้งสองครั้งโดยสหรัฐอเมริกายามสงครามโลกครั้งที่สองใกล้ยุติ วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 วัตถุประเภทจุดระเบิดยูเรเนียม (uranium gun-type) ชื่อรหัสว่า "ลิตเติลบอย" ถูกจุดระเบิดเหนือนครฮิโรชิมะของญี่ปุ่น อีกสามวันให้หลัง วันที่ 9 สิงหาคม วัตถุประเภทจุดระเบิดภายในพลูโตเนียม (plutonium implosion-type) ชื่อรหัสว่า "แฟตแมน" ระเบิดเหนือนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น การทิ้งระเบิดทั้งสองลูกส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตไปประมาณ 200,000 ศพ ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน จากการบาดเจ็บฉับพลันที่ได้รับจากการระเบิด[2] นับแต่การทิ้งระเบิดฮิโรชิมะและนางาซากิ อาวุธนิวเคลียร์ถูกจุดระเบิดกว่าสองพันโอกาสเพื่อจุดประสงค์ด้านการทดสอบและสาธิต มีเพียงไม่กี่ชาติที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์หรือถูกสงสัยว่ากำลังแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ ประเทศที่ทราบว่าเคยจุดระเบิดอาวุธนิวเคลียร์ และได้รับการรับรองว่าครอบครองอาวุธนิวเคีลยร์ คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต (รัสเซียเป็นผู้สืบทอดอำนาจนิวเคลียร์) สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย ปากีสถาน และเกาหลีเหนือ นอกเหนือจากนี้ อิสราเอลยังถูกเชื่ออย่างกว้างขวางว่าครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่ได้รับการรับรองว่ามี[3][4] รัฐหนึ่ง แอฟริกาใต้ เคยยอมรับว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ที่ทำขึ้นก่อนหน้านี้ในอดีต แต่นับแต่นั้นได้แยกประกอบคลังแสงของตนและส่งให้กับผู้คุ้มครองนานาชาติ[5] สหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกาประเมินว่ามีหัวรบนิวเคลียร์กว่า 15,700 หัวทั่วโลกใน พ.ศ. 2558 โดยมีราว 4,120 หัวถูกเก็บไว้ในสถานะ "ปฏิบัติการ" คือ พร้อมใช้งานได้ทันที[3] อาวุธนิวเคลียร์เพียงสองชิ้นเท่านั้นที่เคยใช้ตลอดห้วงการสงคราม ทั้งสองครั้งโดยสหรัฐอเมริกายามสงครามโลกครั้งที่สองใกล้ยุติ วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 วัตถุประเภทจุดระเบิดยูเรเนียม (uranium gun-type) ชื่อรหัสว่า "ลิตเติลบอย" ถูกจุดระเบิดเหนือนครฮิโรชิมะของญี่ปุ่น อีกสามวันให้หลัง วันที่ 9 สิงหาคม วัตถุประเภทจุดระเบิดภายในพลูโตเนียม (plutonium implosion-type) ชื่อรหัสว่า "แฟตแมน" ระเบิดเหนือนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น การทิ้งระเบิดทั้งสองลูกส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตไปประมาณ 200,000 ศพ ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน จากการบาดเจ็บฉับพลันที่ได้รับจากการระเบิด[2] นับแต่การทิ้งระเบิดฮิโรชิมะและนางาซากิ อาวุธนิวเคลียร์ถูกจุดระเบิดกว่าสองพันโอกาสเพื่อจุดประสงค์ด้านการทดสอบและสาธิต มีเพียงไม่กี่ชาติที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์หรือถูกสงสัยว่ากำลังแสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ ประเทศที่ทราบว่าเคยจุดระเบิดอาวุธนิวเคลียร์ และได้รับการรับรองว่าครอบครองอาวุธนิวเคีลยร์ คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต (รัสเซียเป็นผู้สืบทอดอำนาจนิวเคลียร์) สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย ปากีสถาน และเกาหลีเหนือ นอกเหนือจากนี้ อิสราเอลยังถูกเชื่ออย่างกว้างขวางว่าครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่ได้รับการรับรองว่ามี[3][4] รัฐหนึ่ง แอฟริกาใต้ เคยยอมรับว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ที่ทำขึ้นก่อนหน้านี้ในอดีต แต่นับแต่นั้นได้แยกประกอบคลังแสงของตนและส่งให้กับผู้คุ้มครองนานาชาติ[5] สหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกาประเมินว่ามีหัวรบนิวเคลียร์กว่า 15,700 หัวทั่วโลกใน พ.ศ. 2558 โดยมีราว 4,120 หัวถูกเก็บไว้ในสถานะ "ปฏิบัติการ" คือ พร้อมใช้งานได้ทันที
ถึงแม้ว่าโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากมีมาตรการและกระบวนการตรวจสอบต่าง ๆ ที่เข้มงวดและรัดกุมหลายขั้นตอน แต่ก็อาจเกิดเหตุขัดข้องหรืออุบัติเหตุได้เช่นเดียวกับโรงไฟฟ้าทั่วไป ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดได้ง่ายขึ้น ป้องกันการสับสน และไม่ก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกินกว่าสถานการณ์ที่แท้จริง ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA : International Atomic Energy Agency) ร่วมกับองค์กร Nuclear Energy Agency Organization for Economic Cooperation and Development (NEA/OECD) ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับใช้รายงานอุบัติเหตุโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขึ้นในปี พ.ศ.2533 โดยเรียกว่า มาตราระหว่างประเทศว่าด้วยเหตุการณ์ทางนิวเคลียร์ (INES: International Nuclear Event Scale) โดยกำหนดเป็นมาตราสากล ตั้งแต่ระดับ 0 ถึง 7 เป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 0 ระดับเหตุการณ์ปกติ (Deviation) หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัย ระดับที่ 1-3 ระดับแจ้งเหตุขัดข้องหรืออุบัติการณ์นิวเคลียร์ (Nuclear incident) หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขัดข้องในโรงงานนิวเคลียร์ ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ไม่รุนแรงเท่าอุบัติเหตุนิวเคลียร์ ระดับที่ 4-7 ระดับอุบัติเหตุนิวเคลียร์ (Nuclear accident) หมายถึง เหตุการณ์ใด ๆ ที่เกิด ขึ้นในโรงงานนิวเคลียร์โดยไม่เจตนา รวมถึงความผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมทางนิวเคลียร์ หรือของอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับระบบความปลอดภัย ทำให้มีการปลดปล่อย หรือเกือบมีการปลดปล่อยสารกัมมันตรังสีออกสู่สิ่งแวดล้อม ผลกระทบของนิวเคลียร์ต่อชีวิต และการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อม เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษแล้ว ที่เกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุนิวเคลียร์กลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้เกิดการปนเปื้อนกัมมันตรังสีพื้นที่ขนาดใหญ่ในทวีปยุโรป คนรุ่นปัจจุบันอาจจำไม่ได้ว่า หลายประเทศต้องทำลายผักโขมและผักสีเขียวอื่นๆ เช่น เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี มีการยกเลิกการบริโภคนม และวัวทั่วยุโรปต้องถูกกักไว้ในคอกเท่านั้น เหตุการณ์นี้ส่งผลให้กวางขนาดใหญ่จำนวนมากในแลปแลนด์ แกะในเลคดิสทริคของประเทศอังกฤษ และหมูป่าในแทบชวาร์ซวาลด์ของประเทศเยอรมนี ต้องถูกฆ่าทิ้งเนื่องจากพวกมันปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่สูงเกินไป โรงเรียนอนุบาลที่ถูกทิ้งร้างในพริเพียต เมืองที่มีประชากรกว่า 50,000 คนถูกทิ้งร้างหลังจาก เหตุการณ์เชอร์โนบิลผ่านไป 3 วัน เมืองนี้ถูกปนเปื้อนด้วยกัมมันตรังสี ปัจจุบันพริเพียตยังคงเป็นเขตที่มีการปนเปื้อนสูงและไม่อนุญาตให้ผู้คนกลับเข้าไปอยู่อาศัย ในหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบสูงสุดคือ ประเทศเบลารุส ยูเครน และรัสเซีย พื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตรยังคงเป็นพื้นที่ปนเปื้อนเกินที่จะมีผู้คนกลับเข้ามาอยู่อาศัยได้ และผู้คนอีกหลายล้านคนในบริเวณห่างออกไปยังคงต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่เพราะอาจเสี่ยงกับสารปนเปื้อน ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2529 เด็กๆที่อยู่ในรัศมีที่กัมมันตรังสีสามารถแผ่ไปถึงต่างป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ว่าอาจมีผู้เสียชีวิตกว่า 4,000 คนจากสารกัมมันตรังสีจากเหตุการณ์นี้ เหตุการณ์ที่ว่านั่นคือ หายนะภัยนิวเคลียร์เชอร์โนบิล ต่อมาในปี พ.ศ.2554 เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นซ้ำในญี่ปุ่น ปรากฎการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงและทำให้เตาปฏิกรณ์ในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิได้รับความเสียหาย จนเกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีปริมาณมหาศาล เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผู้คนเกือบแสนคนที่อาศัยอยู่ใกล้กับบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่สามารถกลับบ้านเดิมของเขาได้ วิถีชีวิตรอบๆโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เสียหายนั้นหยุดชะงักจนกระทั่งปัจจุบัน นี่เป็นสิ่งที่เราทราบจากประสบการณ์ตรงว่าพลังงานนิวเคลียร์นั้น มาพร้อมกับความเสี่ยงขั้นรุนแรง หลังการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี ผู้คนต่างหวาดกลัวการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีสู่สิ่งแวดล้อม หลายประเทศยุติการนำเข้าอาหารทะเลจากฟุกุชิมะ เกิดความหวาดกลัวว่าเด็กๆในรัศมีใกล้เคียงอาจได้รับการแผ่รังสีและมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งดังเช่นเหตุการณ์ในเชอร์โนบิล ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีในฟุกุชิมะ ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นถึงความเสียหายของเตาปฏิกรณ์ที่ 1 ของโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะ เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2554 จากรายงาน Radiation Reloaded กล่าวว่า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของหายนะภัยนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิจะยังคงอยู่ไปอีกหลายสิบปีหรืออาจนับร้อยปี เนื่องจากสารประกอบของกัมมันตภาพรังสีนั้นซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของพืชและสัตว์ และเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร และมีการแพร่กระจายปนเปื้อนลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกโดยพายุไต้ฝุ่น การละลายของน้ำแข็ง และการเกิดน้ำท่วม จากรายงานดังกล่าว กรีนพีซได้สำรวจระดับการปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ฟุกุชิมะ 25 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.2554 โดยในปี พ.ศ.2558 เน้นการสำรวจไปที่พื้นที่ป่าไม้บนภูเขา ในเขตอิตาเตะ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ โดยทั้งกรีนพีซและทีมวิจัยอิสระได้ตรวจพบการเคลื่อนย้ายแพร่กระจายของกัมมันตรังสีที่สันปันน้ำของภูเขา ซึ่งหลังจากนั้นอาจเข้าสู่ระบบนิเวศชายฝั่งทะเล แม่น้ำอาบุกุมะ ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำสายใหญ่ของญี่ปุ่นที่ไหลผ่านพื้นที่ฟุกุชิมะ มีระดับการปนเปื้อนซีเซียม 137 ที่ 111 เทราเบคเคอเรล (terabecquerel, TBq) และที่ 44 เทราเบคเคอเรล (terabecquerel, TBq) ภายใน 100 ปี หลังจากหายนะภัย เป็นที่ชัดเจนว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงแรกกำลังปรากฎ อาทิ การปนเปื้อนกัมมันตรังสีในเนื้อเยื่อของพืชป่าและต้นไม้ ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายของธาตุซีเซียมในเปลือกไม้ เนื้อไม้และแก่นไม้ โดยมีความเข้มข้นสูงในใบไม้ใหม่ สำหรับกรณีของต้นซีดาร์จะพบมากที่เกสร ปริมาณระดับรังสีจะมีมากขึ้นในต้นสน นอกจากนี้ยังพบในประชากรผีเสื้อพันธุ์ Pale Grass Blue หนอนที่ดีเอ็นเอได้รับความเสียหายพบในบริเวณที่มีการปนเปื้อนกัมมันตรังสีสูง พบธาตุซีเซียมปนเปื้อนในปลาน้ำจืดเศรษฐกิจ นกนางแอ่นบ้านมีความแข็งแรงน้อยลง รวมถึงพบการปนเปื้อนกัมมันตรังสีในระบบนิเวศที่สำคัญอย่างยิ่งของพื้นที่ชายฝั่งปากแม่น้ำ เราจำเป็นต้องมีระบบพลังงานที่สามารถต่อกรกับวิกฤตสภาพอากาศ ที่มีพื้นฐานอยู่บนระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานนิวเคลียร์มีน้อยกว่าไฟฟ้าจากระบบพลังงานหมุนเวียน และจะยังคงลดลงต่อไปในอีกหลายปีที่กำลังจะมาถึง การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะมีค่าใช้จ่ายหลายสิบล้านล้านบาท อาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเหมือนกับเหตุการณ์เชอร์โนบิลหรือเหตุการณ์ในฟุกุชิมะและจะก่อให้เกิดกากกัมมันตภาพรังสีในระดับสูงที่ทำให้เสียชีวิตได้ รวมทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้ส่วนประกอบของอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มอย่างรวดเร็ว เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษแล้ว ที่เกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุนิวเคลียร์กลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้เกิดการปนเปื้อนกัมมันตรังสีพื้นที่ขนาดใหญ่ในทวีปยุโรป คนรุ่นปัจจุบันอาจจำไม่ได้ว่า หลายประเทศต้องทำลายผักโขมและผักสีเขียวอื่นๆ เช่น เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี มีการยกเลิกการบริโภคนม และวัวทั่วยุโรปต้องถูกกักไว้ในคอกเท่านั้น เหตุการณ์นี้ส่งผลให้กวางขนาดใหญ่จำนวนมากในแลปแลนด์ แกะในเลคดิสทริคของประเทศอังกฤษ และหมูป่าในแทบชวาร์ซวาลด์ของประเทศเยอรมนี ต้องถูกฆ่าทิ้งเนื่องจากพวกมันปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่สูงเกินไป โรงเรียนอนุบาลที่ถูกทิ้งร้างในพริเพียต เมืองที่มีประชากรกว่า 50,000 คนถูกทิ้งร้างหลังจาก เหตุการณ์เชอร์โนบิลผ่านไป 3 วัน เมืองนี้ถูกปนเปื้อนด้วยกัมมันตรังสี ปัจจุบันพริเพียตยังคงเป็นเขตที่มีการปนเปื้อนสูงและไม่อนุญาตให้ผู้คนกลับเข้าไปอยู่อาศัย ในหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบสูงสุดคือ ประเทศเบลารุส ยูเครน และรัสเซีย พื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตรยังคงเป็นพื้นที่ปนเปื้อนเกินที่จะมีผู้คนกลับเข้ามาอยู่อาศัยได้ และผู้คนอีกหลายล้านคนในบริเวณห่างออกไปยังคงต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่เพราะอาจเสี่ยงกับสารปนเปื้อน ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2529 เด็กๆที่อยู่ในรัศมีที่กัมมันตรังสีสามารถแผ่ไปถึงต่างป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ว่าอาจมีผู้เสียชีวิตกว่า 4,000 คนจากสารกัมมันตรังสีจากเหตุการณ์นี้ เหตุการณ์ที่ว่านั่นคือ หายนะภัยนิวเคลียร์เชอร์โนบิล ต่อมาในปี พ.ศ.2554 เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นซ้ำในญี่ปุ่น ปรากฎการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงและทำให้เตาปฏิกรณ์ในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิได้รับความเสียหาย จนเกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีปริมาณมหาศาล เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผู้คนเกือบแสนคนที่อาศัยอยู่ใกล้กับบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่สามารถกลับบ้านเดิมของเขาได้ วิถีชีวิตรอบๆโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เสียหายนั้นหยุดชะงักจนกระทั่งปัจจุบัน นี่เป็นสิ่งที่เราทราบจากประสบการณ์ตรงว่าพลังงานนิวเคลียร์นั้น มาพร้อมกับความเสี่ยงขั้นรุนแรง หลังการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสี ผู้คนต่างหวาดกลัวการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีสู่สิ่งแวดล้อม หลายประเทศยุติการนำเข้าอาหารทะเลจากฟุกุชิมะ เกิดความหวาดกลัวว่าเด็กๆในรัศมีใกล้เคียงอาจได้รับการแผ่รังสีและมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งดังเช่นเหตุการณ์ในเชอร์โนบิล ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีในฟุกุชิมะ ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นถึงความเสียหายของเตาปฏิกรณ์ที่ 1 ของโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะ เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2554 จากรายงาน Radiation Reloaded กล่าวว่า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของหายนะภัยนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิจะยังคงอยู่ไปอีกหลายสิบปีหรืออาจนับร้อยปี เนื่องจากสารประกอบของกัมมันตภาพรังสีนั้นซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของพืชและสัตว์ และเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร และมีการแพร่กระจายปนเปื้อนลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกโดยพายุไต้ฝุ่น การละลายของน้ำแข็ง และการเกิดน้ำท่วม จากรายงานดังกล่าว กรีนพีซได้สำรวจระดับการปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่ฟุกุชิมะ 25 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.2554 โดยในปี พ.ศ.2558 เน้นการสำรวจไปที่พื้นที่ป่าไม้บนภูเขา ในเขตอิตาเตะ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ โดยทั้งกรีนพีซและทีมวิจัยอิสระได้ตรวจพบการเคลื่อนย้ายแพร่กระจายของกัมมันตรังสีที่สันปันน้ำของภูเขา ซึ่งหลังจากนั้นอาจเข้าสู่ระบบนิเวศชายฝั่งทะเล แม่น้ำอาบุกุมะ ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำสายใหญ่ของญี่ปุ่นที่ไหลผ่านพื้นที่ฟุกุชิมะ มีระดับการปนเปื้อนซีเซียม 137 ที่ 111 เทราเบคเคอเรล (terabecquerel, TBq) และที่ 44 เทราเบคเคอเรล (terabecquerel, TBq) ภายใน 100 ปี หลังจากหายนะภัย เป็นที่ชัดเจนว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงแรกกำลังปรากฎ อาทิ การปนเปื้อนกัมมันตรังสีในเนื้อเยื่อของพืชป่าและต้นไม้ ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายของธาตุซีเซียมในเปลือกไม้ เนื้อไม้และแก่นไม้ โดยมีความเข้มข้นสูงในใบไม้ใหม่ สำหรับกรณีของต้นซีดาร์จะพบมากที่เกสร ปริมาณระดับรังสีจะมีมากขึ้นในต้นสน นอกจากนี้ยังพบในประชากรผีเสื้อพันธุ์ Pale Grass Blue หนอนที่ดีเอ็นเอได้รับความเสียหายพบในบริเวณที่มีการปนเปื้อนกัมมันตรังสีสูง พบธาตุซีเซียมปนเปื้อนในปลาน้ำจืดเศรษฐกิจ นกนางแอ่นบ้านมีความแข็งแรงน้อยลง รวมถึงพบการปนเปื้อนกัมมันตรังสีในระบบนิเวศที่สำคัญอย่างยิ่งของพื้นที่ชายฝั่งปากแม่น้ำ เราจำเป็นต้องมีระบบพลังงานที่สามารถต่อกรกับวิกฤตสภาพอากาศ ที่มีพื้นฐานอยู่บนระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานนิวเคลียร์มีน้อยกว่าไฟฟ้าจากระบบพลังงานหมุนเวียน และจะยังคงลดลงต่อไปในอีกหลายปีที่กำลังจะมาถึง การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะมีค่าใช้จ่ายหลายสิบล้านล้านบาท อาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเหมือนกับเหตุการณ์เชอร์โนบิลหรือเหตุการณ์ในฟุกุชิมะและจะก่อให้เกิดกากกัมมันตภาพรังสีในระดับสูงที่ทำให้เสียชีวิตได้ รวมทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้ส่วนประกอบของอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มอย่างรวดเร็ว
26 เม.ย.ครบรอบ 33 ปี เหตุโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลระเบิด --26 เม.ย.2529 โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิล (Chernobyl Nuclear Power Plant) ที่เมืองเชอร์โนบิล ประเทศยูเครน (สมัยนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต) เกิดระเบิด หลังจากที่ทีมวิศวกรตรวจสอบการทำงานของระบบทำความเย็น โดยปิดระบบรักษาความปลอดภัย เมื่อแรงดันไอน้ำภายในสูงขึ้นอย่างฉับพลันแต่ระบบตัดการทำงานอัตโนมัติกลับไม่ทำงาน ส่งผลให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 4 ระเบิด สารกัมมันตรังสีเกือบทั้งหมดแพร่กระจายสู่บรรยากาศในรัศมี 30 กิโลเมตรมีการเปรอะเปื้อนรังสีสูง ถูกประกาศเป็นเขตอันตราย (Zone of alienation) สารกัมมันตภาพรังสีลอยปนเปื้อนทั้งในอากาศ แม่น้ำ ผืนดิน ทั่วทวีปยุโรปกว่า 3.9 ล้านตารางกิโลเมตร ต้องอพยพประชาชนประมาณ 336,000 คน หลังอุบัติเหตุ รัฐบาลยูเครนพยายามปิดข่าว แจ้งเพียงแค่ว่ามีเจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่ดับเพลงเสียชีวิตจำนวน 31 คน มีผู้บาดเจ็บจากกัมมันตรังสี 203 คน แต่ด้วยความต้องการไฟฟ้าจำนวนมาก รัฐบาลยูเครนก็สั่งเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เหลือในปี 2534 ก่อนโรงงานจะปิดตัวเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2543 --ในปี 2545 องค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้สรุปผลความเสียหาย มีผู้เสียชีวิตจากแรงระเบิดโดยตรง 47 ราย และคาด ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีก 9,000 คน จากจำนวนผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดประมาณ 6.6 ล้านคน นับว่าเป็นหายนะภัยจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่รุนแรงที่สุดในโลก มันก็ยังไม่เลิกไอ้พวกส้นตีนคนรัสเซีย
กองทัพรัสเซียยึดอดีตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองเชอร์โนบิลทางตอนเหนือของยูเครนแห่งนี้ ไปได้ในวันแรกที่บุกยูเครน แต่ตอนนี้ยูเครนกลับมาควบคุมโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้อีกครั้ง โยกิตา ลิเมอเย ผู้สื่อข่าวบีบีซี เป็นหนึ่งในนักข่าวกลุ่มแรก ๆ ที่ได้เข้าไปดูภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ หลังจากรัสเซียถอนกำลังออกไป ในช่วงบ่ายวันที่ 24 ก.พ. กองกำลังของรัสเซีย ได้ล้อมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลด้วยรถถังและยานหุ้มเกราะ ขณะบุกเข้ายูเครนจากพรมแดนเบลารุส ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 16 กม. เท่านั้น กองกำลังรักษาดินแดน 170 นาย ของยูเครน ที่ดูแลความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ถูกนำตัวไปขังไว้ที่ชั้นใต้ดิน จากนั้นทหารรัสเซียก็ค้นหาอาวุธและวัตถุระเบิดในบริเวณพื้นที่ของโรงไฟฟ้า บรรดาวิศวกร ผู้ควบคุมตรวจสอบ และเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิค ได้รับอนุญาตให้ทำงานต่อไปได้ ในอีก 2 วันต่อมา รัสเซียได้ส่งคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพลังงานปรมาณูของรัสเซีย หรือ Rosatom มาที่นี่ เจ้าหน้าที่ของโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ต้องการที่จะควบคุมดูแลโรงไฟฟ้านี้ต่อไป แม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกใช้งานแล้ว แต่ว่ามีการเก็บกากกัมมันตรังสีไว้ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้ ซึ่งเคยเกิดเหตุภัยพิบัติทางนิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดในโลก มีการใช้เงินไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่เกิดเหตุนี้ขึ้นในปี 1986 เพื่อทำความสะอาดและควบคุมการปนเปื้อนต่อไป ถ้าไม่มีการควบคุมดูแลสถานที่นี้อย่างเหมาะสม ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้วัตถุนิวเคลียร์รั่วไหลออกมาได้ "พวกเขาต้องการรู้ว่า มีการจัดการดูแลโรงไฟฟ้านี้อย่างไร พวกเขาอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการทุกอย่าง เอกสาร และปฏิบัติการต่าง ๆ ผมกลัวเพราะมีการซักถามไม่หยุดเลย และบางครั้งก็มีการใช้กำลัง" โอเลกซานเดอร์ โลบาดา เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยด้านกัมมันตรังสีที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้กล่าว ทุกคนตายฟรีทั้งหมดและเมืองนีร้างทั้งเมือ

ความคิดเห็น

ข่าวที่คนอ่านมาก

ส่งยูเครนโดรน FPV ที่ผลิตมากกว่า 1,500 ลำ "Shrike" ไปยังทิศทางโดเนตสค์ พวกเขาจะช่วยทหารของเราในการป้องกันและรัสเซียโจมตี

  ส่งยูเครน โดรน FPV ที่ผลิตมากกว่า 1,500 ลำ "Shrike" ไปยังทิศทางโดเนตสค์ พวกเขาจะช่วยทหารของเราในการป้องกันและรัสเซีย โจมตี โดรนลำหนึ่งมีราคาเพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้ผู้ครอบครองประหลาดใจอย่างไม่เป็นที่พอใจ UAV เพิ่มเติมจาก Army of Drones กำลังเดินทางมา https://twitter.com/FedorovMykhailo/status/1718234677369074015

SBU จับกุมเจ้าหน้าที่ FSB 2 นายที่ดัดแปลงการโจมตีของรัสเซียในเมืองดนีปรอเปตรอฟสค์และซาปอริซเซียหน่วยข่าวกรองของหน่วยความมั่นคงได้จับกุมเจ้าหน้าที่รัสเซียอีก 2 นายที่ดัดแปลงการยิงของข้าศึกในพื้นที่แนวรบทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน

SBU จับกุมเจ้าหน้าที่ FSB 2 นายที่ดัดแปลงการโจมตีของรัสเซียในเมืองดนีปรอเปตรอฟสค์และซาปอริซเซีย หน่วยข่าวกรองของหน่วยความมั่นคงได้จับกุมเจ้าหน้าที่รัสเซียอีก 2 นายที่ดัดแปลงการยิงของข้าศึกในพื้นที่แนวรบทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ผู้ต้องสงสัยมีหัวหน้างาน FSB ร่วมกันหนึ่งคน แต่ปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างกัน ได้แก่ ซาปอริซเซียและดนีปรอเปตรอฟสค์ ภารกิจหลักของพวกเขาคือการค้นหาตำแหน่งการรบป้องกันภัยทางอากาศและสถานที่ประจำการชั่วคราวของกองกำลังยูเครน หนึ่งในผู้ที่ถูกจับกุมคือหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่ FSB คัดเลือกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งในเมืองดนีปรอเปตรอฟสค์ จากเอกสารคดี ชายคนดังกล่าวได้รับการว่าจ้างจากกลุ่มผู้ยึดครองผ่านญาติของเขา ซึ่งอาศัยอยู่ในสหพันธรัฐรัสเซียและทำงานให้กับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของรัสเซีย เพื่อปฏิบัติภารกิจด้านข่าวกรอง ชาวเมืองดนีปรอเปตรอฟสค์ได้ “ติดต่อ” คนรู้จักของเขา ซึ่งเป็นหัวหน้าสถานีจ่ายน้ำประปาในเมืองฮูลยาอิโปเลในซาปอริซเซีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับแนวติดต่อ เพื่อรวบรวมพิกัด ผู้ต้องสงสัยได้ขับรถของตนเองไปรอบๆ พื้นที่ระหว่างการโจม...

🔱 ข้อมูลปฏิบัติการ ณ เวลา 22:00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 เกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซีย

🔱 ข้อมูลปฏิบัติการ ณ เวลา 22:00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 เกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซีย  ❗️สรุปหลัก:  🔵 ตั้งแต่เริ่มต้นวัน มีการปะทะกัน 108 ครั้ง  🔵 การปะทะการต่อสู้หกครั้งกับผู้รุกรานชาวรัสเซียเกิดขึ้นในทิศทางคาร์คิฟ การโจมตีห้าครั้งถูกขับไล่ในพื้นที่ Tykhi และ Vovchansk การรบครั้งหนึ่งยังคงดำเนินต่อไปในช่วงหลัง   🔵 ในทิศทาง Kupyansk ศัตรูพยายามหกครั้งเพื่อขับไล่หน่วยของเราออกจากตำแหน่งที่ถูกยึดครองใกล้กับ Pishchany และ Stelmakhivka การโจมตีของศัตรูสามครั้งยังคงดำเนินต่อไป  🔵 ศัตรูโจมตี 14 ครั้งในทิศทางของ Lyman สิบครั้งที่พยายามรุกไปในทิศทางของการตั้งถิ่นฐานของ Makiivka และ Nevske ขณะนี้มีการต่อสู้สามครั้ง การโจมตีสองครั้งถูกขับไล่ในป่า Serebryansk และอีกสองครั้งกำลังดำเนินการอยู่   🔵ในทิศทาง Siversky ในระหว่างวัน กองหลังของเราขับไล่การโจมตีของศัตรูสามครั้งในเขต Verkhnokamyansky, Pereizny และ Vyimka ศัตรูไม่ประสบความสำเร็จ  🔵 การปะทะกันเจ็ดครั้งเกิดขึ้นในทิศทางของครามาเตอร์สค์ ผู้ยึดครองปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ Chasov...

ตามรายงานของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติยูเครน (SBU) เจ้าหน้าที่ FSB 3 นายที่ช่วยเหลือรัสเซียบุกเข้าไปในเขตโปครอฟสค์ ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี

ตามรายงานของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติยูเครน (SBU) เจ้าหน้าที่ FSB 3 นายที่ช่วยเหลือรัสเซียบุกเข้าไปในเขตโปครอฟสค์ ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี ตามหลักฐานของหน่วยข่าวกรองรัสเซีย เจ้าหน้าที่รัสเซียอีก 3 นายที่สอดแนมในเขตโดเนตสค์ ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี พร้อมยึดทรัพย์สิน จากการสืบสวนพบว่า ผู้โจมตีกำลังส่งข้อมูลพิกัดของกองกำลังป้องกันประเทศ (Defense Forces) ซึ่งกำลังรบอยู่ในทิศทางที่ร้อนแรงที่สุด นั่นคือโปครอฟสค์ ไปยัง FSB ศัตรูสนใจตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของกองบัญชาการและศูนย์บัญชาการสำรอง รวมถึงเส้นทางการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ของกองทัพยูเครนไปยังแนวปะทะมากที่สุด ข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ยึดครองในการวางแผนปฏิบัติการรุกเพื่อบุกเข้าไปในโปครอฟสค์ ตามเอกสารประกอบคดี ผู้ต้องหาเป็นชาวโดเนตสค์ 3 นาย ซึ่งกำลังรอการยึดครองพื้นที่ทั้งหมด ตามที่ปรากฏในความคิดเห็นในช่อง Telegram ที่นั่นพวกเขาได้รับความสนใจจากหน่วยข่าวกรองรัสเซีย หนึ่งในนั้นคือหญิงวัย 43 ปี อาศัยอยู่ในเมืองยูเครน ทำงานที่สถานี Ukrzaliznytsia ประจำท้องถิ่น ซึ่งเขาคอยสอดแนมกองกำลังป้องกันประเทศในนามของ FSB ภารกิจต่อไปของเขาค...

SBU และตำรวจแห่งชาติเปิดโปงเจ้าหน้าที่สภาเมืองโอเดสซาที่ยักยอกเงินงบประมาณเกือบ 50% ที่จัดสรรไว้สำหรับการฝังศพทหารยูเครนเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงและผู้สืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดโปงแผนการในเมืองโอเดสซาในการยักยอกเงินงบประมาณที่ตั้งใจจะใช้ฝังศพผู้พิทักษ์ยูเครนที่เสียชีวิต

SBU และตำรวจแห่งชาติเปิดโปงเจ้าหน้าที่สภาเมืองโอเดสซาที่ยักยอกเงินงบประมาณเกือบ 50% ที่จัดสรรไว้สำหรับการฝังศพทหารยูเครน เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงและผู้สืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดโปงแผนการในเมืองโอเดสซาในการยักยอกเงินงบประมาณที่ตั้งใจจะใช้ฝังศพผู้พิทักษ์ยูเครนที่เสียชีวิต จากเอกสารของคดีนี้ ผู้เข้าร่วมในข้อตกลงได้จัดสรรเงินเกือบ 50% ที่ได้รับการจัดสรรเพื่อให้แน่ใจว่าญาติของทหารยูเครนจะได้รับการฝังศพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย จากการสืบสวนพบว่าแผนการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของสภาเมืองโอเดสซาและผู้ประกอบการในพื้นที่ กลไกทางอาญาประกอบด้วยการที่ผู้เข้าร่วมในการทำธุรกรรมทำสัญญาในราคาที่สูงเกินจริงและแบ่ง "ส่วนต่าง" ที่เกิดขึ้นระหว่างกัน ตามข้อสรุปของผู้เชี่ยวชาญอิสระ นักธุรกิจได้จัดสรรเงินมากกว่า 2.1 ล้าน UAH จากทั้งหมด 4.8 ล้าน UAH ที่สภาเมืองโอเดสซาจัดสรรไว้สำหรับการติดตั้งอนุสรณ์สถาน 88 แห่ง เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายแจ้งให้ผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมทราบถึงแผนการที่น่าสงสัยภายใต้ส่วนที่ 4, 5 ของมาตรา 191 แห่งประมวลกฎหมายอาญาของยูเคร...

ข้อมูลเกี่ยวกับการตัดสินใจด้านบุคลากรเกี่ยวกับผู้บัญชาการกองพลจู่โจมทางอากาศแยกที่ 80 ของกองทัพยูเครนแห่งยูเครน พันเอกอิชคูลอฟ เอมิล ชามิโลวิช ได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง

ข้อมูลเกี่ยวกับการตัดสินใจด้านบุคลากรเกี่ยวกับผู้บัญชาการกองพลจู่โจมทางอากาศแยกที่ 80 ของกองทัพยูเครนแห่งยูเครน พันเอกอิชคูลอฟ เอมิล ชามิโลวิช ได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง  ข้อมูลที่ระบุมาพร้อมกับการตีความที่ไม่ถูกต้องและมีความไม่ถูกต้องหลายประการ  พันเอก Emil Ishkulov เป็นเจ้าหน้าที่การต่อสู้บุคลากรที่มีประสบการณ์มากซึ่งได้ผ่านตำแหน่งผู้บังคับบัญชาทั้งหมดในหน่วยของกองกำลังลงจอดของยูเครนซึ่งเป็นอัศวินเต็มรูปแบบตามคำสั่งของ Bohdan Khmelnytskyi ในช่วงเริ่มต้นของการรุกรานด้วยอาวุธของสหพันธรัฐรัสเซียต่อยูเครนในปี 2014 เขาได้สั่งการให้หมวดลาดตระเวนของกองพล Sichelava ที่แยกทางอากาศที่ 25 ซึ่งเขาเดินทางไปยังผู้บัญชาการกองพันกระโดดร่ม  ในอนาคตเขาประสบความสำเร็จในการปฏิบัติงานการต่อสู้ที่ยากมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสั่งหน่วยแยกต่างหากของกองพลบินทางอากาศที่ 81 ของ Slobozhansk ทางทิศใต้และต่อมาเป็นเวลานานในกลุ่มกองพลกาลิเซียของ DSHV ในทิศทาง Bakhmutsky .  ดังนั้นเมื่อคำนึงถึงประสบการณ์การต่อสู้และการบังคับบัญชาอันล้ำค่าของเจ้าหน้าที่คนนี้โดยการตัดสินใจของผู้นำทางทห...

🏹 การแทรกซึมของข้าศึกครั้งใหญ่ในโปครอฟสค์🇷🇺 ข้าศึกยังคงแทรกซึมเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ ดูดซับกำลังพลจำนวนมากของเมือง ประวัติศาสตร์การรุกคืบของกัตซาปเข้าสู่โปครอฟสค์เริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคม ซึ่งข้าศึกได้ดำเนินการก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ ซึ่งเราได้กล่าวถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ นับจากนั้นเป็นต้นมา ได้มีการค้นหาแนวป้องกันที่พังทลาย การกดดันอย่างต่อเนื่องจากทหารราบ และการทำงานอย่างเป็นระบบของนักบินข้าศึกในการกำหนดตำแหน่งและการส่งกำลังบำรุงของเครื่องบินรบยูเครน

🏹 การแทรกซึมของข้าศึกครั้งใหญ่ในโปครอฟสค์ 🇷🇺 ข้าศึกยังคงแทรกซึมเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ ดูดซับกำลังพลจำนวนมากของเมือง ประวัติศาสตร์การรุกคืบของกัตซาปเข้าสู่โปครอฟสค์เริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคม ซึ่งข้าศึกได้ดำเนินการก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ ซึ่งเราได้กล่าวถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ นับจากนั้นเป็นต้นมา ได้มีการค้นหาแนวป้องกันที่พังทลาย การกดดันอย่างต่อเนื่องจากทหารราบ และการทำงานอย่างเป็นระบบของนักบินข้าศึกในการกำหนดตำแหน่งและการส่งกำลังบำรุงของเครื่องบินรบยูเครน ⛳️ เมื่อเวลาผ่านไป จุดอ่อนก็ถูกค้นพบ นั่นคือ ซวิโรโว เชฟเชนโก และพื้นที่ตามแนวทางรถไฟจากคอตลีนไปยังโปครอฟสค์ ตลอดเวลานี้ ข้าศึกยังคงใช้และยังคงใช้ความเป็นไปได้ของกองกำลังป้องกันที่อ่อนแอของหน่วย SOU ทางตอนใต้ของเมือง โดยเข้าใจถึงความเหนือกว่าด้านจำนวนทหารราบและการขาดแคลนทหารราบของเรา นอกจากนี้ ในช่วงเวลาหนึ่ง ชาวคัตซาปส์ได้รับความช่วยเหลือจากคำโกหกของผู้บัญชาการกองพลน้อยบางคนที่คอยป้องกันพื้นที่ทางตอนใต้ของโปครอฟสค์ 📍 ในปัจจุบัน ตามข้อมูลของเรา ศัตรูสามารถลากทหารราบเข้าเมืองได้มากกว่าหนึ่งร้อยนาย และยังคงแทรกซึมเข้าไป...

🔥หญิงสูงอายุได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้แห้งในเขต Mykolaiv

ชีวิตที่ยากลำบาก 🔥หญิงสูงอายุได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้แห้งในเขต Mykolaiv  วันนี้ ในเมือง Novy Bug เขต Bashtan หญ้าถูกไฟไหม้ถัดจากส่วนที่อยู่อาศัย ไฟลามไปที่ลานแห่งหนึ่ง - เปลวไฟท่วมโรงนา     เจ้าของเป็นหญิงสูงอายุที่เกิดในปี พ.ศ. 2474 พยายามรักษาทรัพย์สินและดับไฟด้วยตัวเอง ทำไม่สำเร็จ 😔 เพื่อนบ้านดึงยายออกจากจุดไฟและปฐมพยาบาล ส่วนหญิงมีรอยไหม้ที่แขนและขา เหยื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล     เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้รวมพื้นที่ 530 ตารางเมตร      ❗ รวมเกิดเพลิงไหม้ 261 ครั้ง พื้นที่รวม 202.23 เฮกตาร์ในระบบนิเวศทางธรรมชาติของยูเครนในช่วงวันสุดท้าย จำนวนการเกิดเพลิงไหม้ที่ใหญ่ที่สุดถูกบันทึกไว้ใน Dnipropetrovsk - 74 (51.92 เฮกตาร์), คาร์คิฟ - 29 (10.1 เฮกตาร์) และภูมิภาคโอเดสซา - 27 (13.1 เฮกตาร์)  🆘 ไซต์ • Fb • Tw • Insta • YouTube

จากเอกสารของ SBU ระบุว่า ผู้เหยียดเชื้อชาติที่กักตัวพลเรือน 369 คนเป็นตัวประกันระหว่างการยึดครองพื้นที่เชอร์นิฮิฟ ถูกตัดสินจำคุกโดยไม่ปรากฏตัว

จากเอกสารของ SBU ระบุว่า ผู้เหยียดเชื้อชาติที่กักตัวพลเรือน 369 คนเป็นตัวประกันระหว่างการยึดครองพื้นที่เชอร์นิฮิฟ ถูกตัดสินจำคุกโดยไม่ปรากฏตัว จากหลักฐานของหน่วยข่าวกรอง พบว่าผู้เหยียดเชื้อชาติอีกรายหนึ่งที่ก่ออาชญากรรมสงครามระหว่างการยึดครองพื้นที่บางส่วนของเชอร์นิฮิฟ ถูกตัดสินจำคุกโดยไม่ปรากฏตัว 12 ปี นี่คือร้อยเอกเซมยอน โซโลเวียฟ อายุ 37 ปี (รหัสเรียกขาน "เคลน") ผู้บัญชาการกองพันผสมของกรมทหารราบเบาที่ 228 แห่งกองทัพสหพันธรัฐรัสเซีย (หน่วยทหาร 22316) จากเอกสารคดี ในเดือนมีนาคม 2565 หน่วยของเขาได้เข้าร่วมในการยึดหมู่บ้านยาโกดเน ขณะอยู่ในนิคม โซโลเวียฟสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาขับรถพาพลเรือนที่อาศัยอยู่ในนิคมไปยังชั้นใต้ดินของโรงเรียนประจำหมู่บ้าน ซึ่งผู้ยึดครองได้ตั้งกองบัญชาการไว้ ด้วยเหตุนี้ กลุ่มราชิสต์จึงจับชาวบ้าน 369 คนเป็นตัวประกันเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน รวมถึงผู้เยาว์ 69 คน จากการสืบสวนพบว่า ชาวบ้านถูกขังไว้ในห้องใต้ดินขนาด 197 ตารางเมตร โดยไม่มีแสงสว่าง การระบายอากาศ น้ำ และอาหารเพียงพอ ด้วยเหตุนี้ ผู้บุกรุกจึงใช้เหยื่อเป็น "โล่มนุษย์" ให้กับศูนย...

🔱 ข้อมูลปฏิบัติการ ณ เวลา 08.00 น. วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซีย ❗️สรุปหลัก:

🔱 ข้อมูลปฏิบัติการ ณ เวลา 08.00 น. วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซีย  ❗️สรุปหลัก:  🔵ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการบันทึกการปะทะกัน 129 ครั้ง  🔵 ในทิศทางคาร์คิฟ ศัตรูยังคงปฏิบัติการรุก (โจมตี) เกิดการปะทะการต่อสู้ทั้งหมดเก้าครั้ง การต่อสู้เกิดขึ้นในเขตการตั้งถิ่นฐาน Hlyboke, Tykh และ Vovchansk ของภูมิภาคคาร์คิฟ  🔵 ในทิศทาง Kupyansk จำนวนการปะทะการต่อสู้ต่อวันคือสามครั้ง กองกำลังป้องกันขับไล่การโจมตีของศัตรูในพื้นที่ Sinkivka ของภูมิภาคคาร์คิฟ  🔵ในทิศทาง Lymansky กองทหารของเราขับไล่การโจมตีของศัตรู 14 ครั้งในพื้นที่ Novosergiivka ภูมิภาค Kharkiv Makiivka เนฟสกี ภูมิภาค Luhansk; Terniv ภูมิภาคโดเนตสค์  🔵ในทิศทาง Siversky กองกำลังป้องกันได้ขับไล่การโจมตีแปดครั้งในพื้นที่นิคม Verkhnokamianske และ Spirn  🔵ในทิศทาง Kramatorsk กองหลังชาวยูเครนหยุดความพยายามของศัตรูหกครั้งเพื่อเจาะทะลุการป้องกันของกองหลังของเราในเขต Ivanovsky และ Andriivka ของภูมิภาคโดเนตสค์  🔵ศัตรูพยายาม 28 ครั้งเพื่อเจาะแนวป้องกันของเราในทิศทาง ...